หน้าเว็บ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

แม่คือ


แม่คือ ?


คือ “ ผู้ให้ ” ไม่หวังสิ่งตอบแทน      คือ “ ผู้สร้าง ” แบบแผนแจ้งประจักษ์
คือ “ ผู้มอบ ” ความรู้คู่ความรัก         คือ “ แม่ ” ผู้เหนื่อยหนักตลอดมา

กิจกรรมที่ทำกับแม่
          ทำบุญตักบาตรตอนเช้า 
การทำบุญตักบาตร เป็นการทำบุญที่ชาวพุทธทั่วไปรู้จักและปฏิบัติมากกว่าการทำบุญประเภทอื่น ๆ การตักบาตรนั้น ยังถือว่าเป็นการทำบุญประจำวันของชาวพุทธ และชาวพุทธไทยเชื่อว่า การออกบิณฑบาตของพระสงฆ์เป็นการช่วยโปรดสัตว์ที่อยู่ในอบายภูมิ เช่น เปรตวิสัย ให้ได้รับส่วนบุญ ด้วยเหตุผลทางจิรยธรรม ในการทำบุญตักบาตรนั้น พอสรุปได้ดังนี้


          ๑.เป็นการสั่งสมบุญในแต่ละวัน เพราะการสั่งสมเป็นเหตุนำความสุขมาให้


          ๒.เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการทำบุญทำให้จิตใจแจ่มใส เพื่อให้มีกำลังใจที่เข้มแข็ง เพราะผู้ที่ไม่มีบุญ

เกื้อหนุนอยู่ในใจ ย่อมพ่ายแพ้ต่อบาปได้ง่าย
          ๓.เป็นการทำที่พึ่งคือบุญให้แก่ตนเองในอนาคต

          ๔.เป็นการช่วยรักษาพุทธประเพณี เพราะพระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีต และที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต ด้วนแต่ดำรงพระชนม์ชีพด้วยอาหารบิณฑบาต
          ๕.เป็นการช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนา เพราะพระสงฆ์เป็นผู้ศึกษา ปฏิบัติพระธรรมวินัย แล้วนำมาสั่ง
สอนให้ประชาชน ได้รับรสแห่งพระธรรมด้วย อีกทั้งยังดำรงตนเป็นตัวอย่างด้านความประพฤติ ดีงามของสังคม ฉะนั้น ชาวพุทธควรทำบุญตักบาตรเป็นประจำทุกวัน เพื่อเป็นการสั่งสมบุญให้แก่ตนเองที่จะต้องนำไป ดุจเสบียงเดินทาง ในการท่องเที่ยวเวียนเกิดและเวียนตายอยู่ในวัฏฏสงสาร อันไม่ปรากฏ
เบื้องต้นและที่สุด และบุญที่สั่งสมไว้นี้ จะช่วยเกื้อกูลให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้

          อนึ่ง ประโยชน์ส่วนรวมที่จะเกิดขึ้น คือ เป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา เพระพระสงฆ์ซึ่งเป็น

ผู้นำของพุทธบริษัท ที่เป็นฐานกำลังสำคัญแห่งกองทัพธรรมนั้น ท่านดำรงชีพอยู่ได้ด้วยปัจจัยที่คฤหัสถ์จัด

ถวาย ท่านจึงสามารถมีกำลังกาย กำลังใจที่จะศึกษาพระพุทธพจน์ คือ พระไตรปิฎก ให้เข้าใจ ทรงจำ นำมา

ประพฤติปฏิบัติ และกล่าวสอนมวลมนุษย์ได้


มะลิหอมน้อมวางข้างข้างตัก


กรุ่นกลิ่น "รัก" บริสุทธิ์ผุดผ่องใส

แทนทุกคำทุกถ้อยร้อยจากใจ

เป็นมาลัย "กราบแม่" พร้อมน้อมบูชา


มะลิหอมน้อมวางข้างข้างตัก  กรุ่นกลิ่น รัก บริสุทธิ์ผุดผ่องใส
แทนทุกคำทุกถ้อยร้อยจากใจ  เป็นมาลัย กราบแม่ พร้อมน้อมบูชา

          แม้ชีวิตจะเกี่ยวข้องกับพจนานุกรมอยู่เสมอ  แต่มีคำอยู่คำหนึ่งที่ฉันไม่เคยคิดจะเปิดหาความหมายเลย

 แม้แต่ครั้งเดียว  ด้วยรู้ดีว่าไม่มีพจนานุกรมเล่มใดที่จะอธิบายความหมายของคำคำนี้ได้อย่างครบถ้วน  และ

สมบูรณ์อย่างแท้จริง  “ แม่ ” คำที่มีลักษณะห้วนสั้น  แต่พร้อมพรั่งไปด้วยความหมายอันยิ่งใหญ่อย่างหาที่

เปรียบมิได้  เพราะแม่คือ “ ผู้ให้ ” ผู้อุทิศกายใจเพื่อลูกทุกเสี้ยววินาที  และแม่คือ “ ผู้สร้าง ” ผู้หล่อหลอมความ

ดีความงามทั้งมวลแก่เผ่าพันธุ์มนุษยชาติ

          ความรักของแม่ คือ รักแท้อันบริสุทธิ์  สายใยแห่งความรักระหว่างแม่กับลูกเริ่มก่อเกิดนับตั้งแต่วินาที

แรกที่แม่รับรู้ว่า  ยังมีอีกชีวิตหนึ่งถือกำเนิดอยู่ในครรภ์  “ แม่คือผู้ให้ชีวิต ”  ให้ดวงตาสองข้างอันเปรียบดัง

บานประตูสู่โลกกว้าง ให้สองหูอันเป็นบันไดไปสู่การเรียนรู้  ให้สองมือ สองเท้าเพื่อดำเนินชีวิตบนโลก

แห่งประสบการณ์  เหนือสิ่งอื่นใด แม่ได้ให้ความรัก อันเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความรักทั้งมวลบนโลกใบนี้

          ใครกันหนออุปมาว่าแม่เปรียบเสมือนดอกมะลิ  สีขาวของกลีบดอกนั้นคงเป็นเครื่องสะท้อนถึงรักแท้

จากดวงใจบริสุทธิ์  รักนั้นช่างมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงดังกลิ่นหอมอ่อนๆที่กรุ่นกำจายอยู่มิรู้หาย  หากมีใครสัก

คนตีค่าความรักเป็นราคา  ความรักของแม่คงเป็นความรักที่ราคาแพงอย่างประเมินค่ามิได้  ด้วยเนื้อแท้แห่งรัก

บริสุทธิ์ที่เปล่งประกายอวดโฉมอยู่ตลอดเวลาช่างงดงามนัก  แม้เพชรพลอยเลอค่าก็มิอาจเทียบได้

          เก้าเดือนที่แม่โอบอุ้มลูกน้อยเอาไว้ในครรภ์  คือเก้าเดือนแห่งความรัก เก้าเดือนแห่งความผูกพัน เก้า

เดือนแห่งความห่วงใย  และเก้าเดือนแห่งการรอคอย แม่ต้องเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัสในวันที่ลูกใกล้

คลอด  ดังบทกวีอมตะของท่านพุทธทาสภิกขุที่ลิขิตเอาไว้ว่า

วันเกิดลูกเกือบคล้ายวันตายแม่         เจ็บท้องแท้เท่าไรก็ไม่บ่น

กว่าจะอุ้มท้องกว่าคลอดรอดเป็นคน      เติบโตจนป่านนี้นี่เพราะใคร

       ถึงแม่ต้องเจ็บปวดสักเพียงใดก็ตาม  แต่วินาทีแรกที่ได้เห็นดวงตาอันสุกใสของลูกน้อยความเจ็บปวดทั้ง

มวลก็อันตรธานไปจนแทบหมดสิ้น  ทิ้งไว้เพียงรอยยิ้มและความปลื้มปิติของผู้ให้กำเนิด  เมื่อได้รับน้ำนม

หยดแรกจากแม่  ลูกจึงรับรู้ได้ถึงความรักความผูกพันอันยิ่งใหญ่ หยดน้ำนม หยาดน้ำแห่งชีวิต  ที่ช่วยเสริม

สร้างความมั่นคงทางจิตใจสำหรับช่วงเวลาของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีอีกชีวิตหนึ่ง 

“ อื่อจาๆ หลับสองต๋า ถ้าแม่มาค่อยตื่น ถ้าหลับบ่จื้น  ก็ค่อยหลับแหม ”

          แม้จะล่วงเลยวัยเด็กมานานถึงยี่สิบกว่าปีแล้ว  ฉันก็ยังจำเสียงเห่กล่อมของแม่และสัมผัสเปี่ยมรักของ

ท่านได้เสมอ  เสียงของแม่มิได้ไพเราะเพราะพริ้งราวกับระฆังทองหรือนักร้องมืออาชีพ กลับเป็นน้ำเสียง

ของผู้หญิงธรรมดาๆแต่อบอุ่นและปลอดภัย  เมื่อได้ยินเสียงขึ้นมาคราใดก็รับรู้ได้ทันทีว่าจะไม่มีเคราะห์ภัย

ใดมากล้ำกลายได้ เพราะแม่เสียสละเพื่อลูกได้แม้กระทั่ง “ ชีวิต”

          เมื่อถึงวัยที่ต้องเข้าเรียนในโรงเรียนอนุบาล  ฉันเป็นเด็กที่ร้องไห้ยาวนานที่สุด จนเป็นที่เอือมระอาของ

คุณครู  เนื่องจากฉันเป็นเด็กที่ติดแม่มากจึงมีความรู้สึกว่าไม่มีอ้อมกอดใดจะปลอดภัยเท่ากับอยู่ภายในอ้อม

แขนของท่าน “ อ้อมกอดแม่คือต้นกำเนิดแห่งกำลังใจ ” เมื่อเจริญวัยขึ้น  วันใดที่ชีวิตประสบปัญหา  อ้อมกอด

ของแม่จึงเป็นทางเลือกเดียวที่จะจุดพลังในใจดวงนี้ให้ลุกโชติช่วง ฉันเคยถามตนเองอยู่เสมอว่า ทุกๆครั้งที่

พานักเรียนไปอบรมธรรมะ  เมื่อพระอาจารย์วิทยากรสั่งสอนเกี่ยวกับความกตัญญูกตเวที  เหตุใดฉันจึงน้ำตา

ซึมอยู่เสมอ    เมื่อท่านเอ่ยถึง “ สตรีผู้หนึ่งที่อดทนเพื่อลูกเสมอ  พร้อมที่จะยื่นมือเข้าไปโอบกอด  เช็ดน้ำตา 

และอภัย ทุกคราวที่ลูกพลาดพลั้งหลงทางผิด” เมื่อเวลาผ่านไปจึงได้คำตอบว่า   แท้จริงแล้วถ้อยคำเหล่านี้

ทำให้รู้สึกสะเทือนใจ และกลับกลายเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจให้ฉันลุกขึ้นมาต่อสู้กับอุปสรรคที่ดาหน้าเข้ามา

อย่างไม่หวั่นเกรง
          วัยเด็กเป็นวัยที่ต้องการแบบอย่าง  แม่จึงเป็นครูแห่งชีวิตเป็นแบบพิมพ์ชั้นดีให้แก่ลูกโดยไม่รู้ตัว คำสั่ง

สอนของแม่นั้นจะช่วยเติมเต็มความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ที่สุด  คำสอนของแม่ปลูกฝังจิตสำนึกและจิต

วิญญาณ  ท่านจึงเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยสร้างสังคมให้เข้มแข็ง ฉันเป็นผู้หนึ่งที่ได้นำคำสอนของแม่มา

ประพฤติปฏิบัติ  เพราะรู้ดีว่า..แม่จะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกอยู่เสมอไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าฉันมีวันนี้เพราะ

แม่  แม่คือเบื้องหลังของทุกความสำเร็จ 

            หยาดเหงื่อทุกหยดของแม่เป็นกาวชั้นดีในการสร้างครอบครัวให้เป็นปึกแผ่น แม่ของฉันไม่ใช่สตรีที่

ร่ำรวยความรู้หรือเงินทอง  แม่เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำทุกอย่างเพื่อลูกได้  เหงื่อแต่ละหยดของแม่แลก

เปลี่ยนเป็นเงินทองเพื่อให้ลูกได้ร่ำเรียนสูงๆ  ฉันจึงกอดแม่ได้เสมอแม้ในยามที่เหงื่อแม่โซมกาย  หรือยามที่

มือหยาบกร้านของแม่แปดเปื้อนด้วยดินโคลน

          จากนี้จนสิ้นใจ...ฉันก็คงไม่สามารถตอบแทนพระคุณแม่ได้หมดพระคุณอันล้นฟ้านี้  ความสามารถ

ทางการเขียนอันน้อยนิดของฉันคงไม่มีวันที่จะพรรณนาได้  แต่ฉันรู้ดีว่ามีภาระยิ่งใหญ่ที่ต้องกระทำ  คือ การ

ทำให้บั้นปลายของท่านมีความสุขที่สุด  นั่นคือการเป็นลูกที่ดีและเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม  ให้สมกับที่“ สอง

มือแม่ได้ปั้นแต่งความเป็นคน ” เอาไว้แต่หนหลัง



ที่มา  หนังสือเรียงความเทิดพระคุณแม่  ในโอกาสวันแม่ปี ๒๕๕๕

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น